“หลวงปู่ผาด อภินันโท” หรือ พระครูมงคลสาธุวัตร อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดไร่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของภาคกลาง
เกิดในสกุล ทองฟู เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย.2459 ที่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง บิดา-มารดาชื่อ นายเหนี่ยง และ นางแจ๋ว ทองฟู มีพี่น้อง 3 คนชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก ต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว แต่ยังมีเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนประชาบาลวัดยางมณี จนจบชั้น ป.4 และบวชเป็นสามเณร ที่วัดยางมณี มีหลวงพ่อชวน วัดยางมณี เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อมีจิตใจใฝ่ธรรมะ อยากศึกษา พระปริยัติธรรมชั้นสูงขึ้นไป จึงได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณพระรัตนมุนี วัดชีโพน อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับเข้าไว้เป็นศิษย์ในสำนักเรียนวัดชีโพน
ด้วยอุปนิสัยที่เป็นคนพูดน้อย ขยันทำงาน ว่านอนสอนง่ายตามที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่รักใคร่เมตตาและเป็นศิษย์โปรด
ท่านเจ้าคุณพระรัตนมุนี นอกจากดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ยังเป็นศิษย์ในสำนักของหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติการาม อีกด้วย ครั้นเมื่ออายุครบบวชจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดยางมณี เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2481 มีหลวงพ่อปลื้ม วัดช้าง เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อชวน วัดยางมณี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อแทน วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
จำพรรษาอยู่ที่วัดกำแพง จนเมื่อ พระมงคลเทพมุนี หรือ หลวงพ่อสด จันทสโร วัดปากน้ำภาษีเจริญ เผยแผ่หลักวิปัสสนา กัมมัฏฐานที่ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง ทำให้วัดในพื้นที่เมืองกรุงเก่าได้ส่งพระภิกษุในสังกัดที่เจ้าคณะปกครองเห็นสมควร ไปรับการฝึกอบรมจากหลวงพ่อสด
หลวงปู่ผาดในขณะนั้น ได้รับการคัดเลือกส่งไปรับการอบรมด้วย โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) เพื่อศึกษาวิชาด้านพระปริยัติธรรมและฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานตามแนวหลวงพ่อสดด้วย
ทั้งนี้ สมเด็จพระสังฆราช (ป๋า) วัดโพธิ์ ท่าเตียน ได้ทรงอุปถัมภ์หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ อยู่ในขณะนั้นปรากฏว่าสามารถปฏิบัติได้ดีและเรียนรู้ได้รวดเร็วกว่าพระรูปอื่นทั่วไป สมัยเป็นพระลูกวัดท่านศึกษาวิชากัมมัฏฐาน ตลอดจนอักขรวิธี และพุทธาคมจากท่านเจ้าคุณพระรัตนมุนี แห่งวัดชีโพน เป็นปฐมแล้ว ยังได้เล่าเรียนสรรพตำราจากพระเกจิอาจารย์นามกระเดื่องในสมัยนั้น ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับท่านเจ้าคุณพระรัตนมุนีอีกด้วย
ครั้นเมื่อ พ.ศ.2495 เมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไร่ ว่างลงจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส และเปิดสำนักอบรมวิปัสสนาชั้นสูงขึ้นด้วย อีกทั้งเวลามีงานสำคัญเป็นงานประจำปีของวัดไร่ จะเป็น ผู้ประกอบพิธีปรุงยาหุงว่าน แจกจ่ายให้ประชาชนเป็นประจำทุกปี ว่ากันว่าตำราว่านยาที่ปรุงนี้เป็นตำรายาของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค สร้างคุณูปการแก่วัดไร่เป็นอันมาก เช่น ตั้งสำนักอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ฯลฯ งานด้านการสงเคราะห์ญาติโยม และด้านงานสาธารณูปโภค การก่อสร้างถาวรวัตถุของวัด อาทิ สร้างอุโบสถขนาดกลาง 1 หลัง อุปถัมภ์โรงเรียนวัดศาลาดิน บูรณะหอ สวดมนต์, ศาลาการเปรียญ สร้างศาลาบำเพ็ญกุศล เมรุ ห้องพักผู้ปฏิบัติธรรม และอีกมากมาย
ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่สร้าง ล้วนแล้วแต่ทรงคุณอันวิเศษ และเป็นที่เสาะแสวงหาเป็นอย่างมาก อาทิ พญาครุฑ, พระนารายณ์, ตะกรุดมหาจักรพรรดิ, พระพรหมบูชา และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยล่วงเข้าสู่วัยชรา สุขภาพร่างกายย่อมเสื่อมถอยไปตามวัย สุดท้ายมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2557
หน้าที่เข้าชม | 87,295 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 73,258 ครั้ง |
เปิดร้าน | 19 ส.ค. 2562 |
ร้านค้าอัพเดท | 27 ส.ค. 2568 |